Sunday, August 01, 2010

"บ้านแสงดาว"

อาจจะเป็นเอนทรี่สุดท้ายที่เขียนเกี่ยวกับบ้านเช่า
เพราะวันนี้มีผู้เช่าเข้าอยู่อาศัยครบทั้งสามห้องแล้ว
แม่ก็คงหมดกังวลเพราะเงินที่ลูกลงทุนก่อสร้างบ้านเช่าเกือบล้านบาท จะเริ่มเก็บเล็กเก็บน้อยคืนมาได้ แม้จะไม่มากมายแต่ก็เห็นความเคลื่อนไหวอยู่ ไม่สูญเปล่า

ห้องแรกเลขที่๓๐๓ เป็นหญิงรุ่นราวเดียวกับเรา ที่อยู่เดิมคือ อ.เชียงยืน ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจที่ดิน
ห้องกลาง เลขที่ ๓๐๓/๑ เป็นร้านเสริมสวย เจ้าของร้านก็เป็นรุ่นราวเดียวกัน เป็นคน อ.พระยืน ทำร้านเสริมสวยมานานแล้ว มีชื่อเสียง มีลูกค้าเยอะพอควร ร้านเดิมอยู่ในตลาด เปิดสาขาเพิ่มให้ลูกน้องมาอยู่
ห้องขวา เลขที่ ๓๐๓/๒ เป็นร้านสปา เสริมความงาม เป็นสะใภ้คนในคุ้มเดียวกับแม่

ก็ขอให้ผู้มาพักอาศัย พักอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างมีความสุข เจริญรุ่งเรืองในธุรกิจ

ด้านหลังของบ้านมีพื้นที่เหลือ ให้แม่ได้ปลูกผักสวนครัว เราไปช่วยถอนหญ้าให้บ้าง ไม่กี่วันฟักทองลูกโตแล้ว ผักอีตู่หลายต้นแม่เก็บขายได้เงินหลายบาทแล้ว

บ้านหลังนี้..เราตั้งชื่อไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า "บ้านแสงดาว" ชื่อนี้มีความหมายทางใจสำหรับเรามาก

Tuesday, July 27, 2010

เข้าพรรษา๕๓ และคนเช่าบ้านใหม่

หลายวันก่อน กลับบ้านเทศกาลเข้าพรรษา มีโอกาสไปนอนบ้านเกิด คุยกับยายท่ามกลางสายฝน มีความสุขใจ แม่นำความหลังหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง บางเรื่องไม่เคยเล่ามาก่อน บางเรื่องละเอียดอ่อน ได้รับฟังทั้งยังปลอบใจกันและกัน ในความรักของแม่กับลูกไม่ว่าช่วงเวลาใด ความรักความห่วงใยไม่เคยจางลงหรือลดลงเลย



แห่เทียนปีนี้ หลานสาวตัวเล็ก น้องซีน ได้แต่งตัวสวยเป็นนางเทียน

ป้านุช ป้ารัตน์ น้องซีน นายชาร์ตไฮเปอร์


ช่วงแห่เทียน ฝนตกหนัก เปียกปอนไปตาม ๆ กัน

ทั้งนางเทียนและพี่เลี้ยง(อาอุ้มของเธอ)




เรื่องยินดีอีกเรื่องในช่วงนี้คือ ห้องแถวที่สร้างเสร็จแล้วนั้น เริ่มมีคนเช่าแล้ว ๑ ห้อง เป็นคนละแวกบ้าน คนรุ่นใหม่ เปิดร้านทำสปา เสริมความงาม ย้ายเข้ามาอยู่เมื่อ ๒๒ กรกฎาคม ๕๓

มีโอกาสแวะไปชมร้านที่ตกแต่งแล้วก็ดูดี กว้างขวาง
เสนอแนะเจ้าของให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์เพิ่ม


ก็ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ยิ่ง ๆ ขึ้น ค่ะ

Thursday, July 15, 2010

จดหมายจาก 'สิงห์สนามหลวง'และช่อการะเกด ๕๓

ความเดิม 'จดหมายที่ไม่ได้ส่ง'

เรียนลุงสิงห์ที่เคารพ

ข้าพเจ้าส่ง “ข้อสอบ” มาให้ลุงทดสอบค่ะ เป็นปรนัย
เป็นการสอบที่ต่างจากการสอบทั่วไป เพราะข้อสอบมิได้ตัดสินผู้สอบ
แต่เป็นข้อสอบที่ตัดสินผู้ออกข้อสอบ

ชื่อชุดข้อสอบว่า “สายใย” จำนวน 9 หน้า

ลุงจะเลือกข้อ ก.(ได้รับการตีพิมพ์)

ข.(ผ่านรอ)

หรือ ค.(ผ่านเลย)

ข้าพเจ้าก็จะเฝ้ารออยู่ในความเงียบ อย่างใจเย็น ๆ ๆ ๆ ดังที่ลุงพยายามบอกซ้ำ ๆ และจะพยายามต่อไปและต่อ ๆ ๆ ไปค่ะ เพื่ออย่างน้อยจะได้บรรลุวัตถุประสงค์บางประการที่ตั้งใจไว้


ด้วยความเคารพ
นกแสงตะวัน
11 กรกฎาคม 2551


จดหมายจากลุงสิงห์

ตู้ ปณ. ๑๑๔๓ ปท. ดอนเมือง กท. ๑๐๒๑๑
๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
คุณ ‘นกแสงตะวัน’
เรื่องสั้น ‘สายใย’ ของคุณผ่านรอมาตั้งแต่ครั้งช่อการะเกด ๔๗ และยังคอยเรื่องสั้นชิ้นใหม่ที่จะ ‘ผ่านเกิด’ ต่อไป โดยอยากเทียบกันว่าชิ้นไหนเข้มข้นมากกว่า คุณต้องเขียนต่อเนื่องจึงจะรู้ เรื่องสั้น ‘สายใย’ ก็มีรายละเอียดที่สมจริงใช้ได้ แต่สถานการณ์ยังไม่ค่อยมีอะไรใหม่ในเชิงความคิดริเริ่ม เข้าใจว่าน่าจะยังมีสถานการณ์เข้ม ๆ ที่เป็นฉากของโรงพยาบาลอีกไม่น้อย ขอเป็นกำลังใจ คุณใช้ภาษาเล่าเรื่องได้แล้ว และใช้ได้เหมาะกับเนื้อหาด้วย เรื่องภาษาถือว่าสอบผ่าน ยังรอแค่ความเข้มของสถานการณ์ที่คุณจะเก็บเกี่ยวออกมาในเวลาต่อไป

ขอบคุณสำหรับคำพรถึง ‘สิงห์สนามหลวง’
ด้วยไมตรี

สุชาติ สวัสดิ์ศรี


-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+


นี่คือสิ่งที่เหนือความคาดหมาย

การได้รับจดหมายจาก บรรณาธิการนาม สุชาติ สวัสดิ์ศรี นับว่าเป็นเกียรติอย่างที่สุด

เรื่องสั้น 'สายใย' จึงถูกหยิบขึ้นมาอ่าน มาเกลา ขอความคิดเห็นจากผู้รู้หลายท่าน

กระทั่งเปลี่ยนชื่อเป็น 'ก่อนตะวันสิ้นแสง'
ดั่งปรากฏใน ช่อการะเกด ๕๓ (กรกฎาคม-กันยายน ๕๓)

เป็นของขวัญวันเกิดปีนี้ ที่มีค่ายิ่งค่ะ






ช่อการะเกด ๕๓ (กรกฎาคม – กันยายน 2553)

สุชาติ สวัสดิ์ศรี : บรรณาธิการ.

ตัวตนของหญิงสาว : กิติวัฒน์ ตันทะนันท์

สิบห้าค่ำ : เกริกศิษฏ์ พละมาตร์

ชายผู้มีเทวดาประจำตัว : ชาคริต โภชะเรือง

กาลครั้งนี้ ศตวรรษที่ 21 : เดือนวาด พิมวนา

บุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม : ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ก่อนตะวันสิ้นแสง : นกแสงตะวัน

ความตายเป็นเพียงแค่ความฝัน : ละเวง ปัญจสุนทร

สะพาน : วินทร์ เลียววาริณ

ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อมะลิ : วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์

เตียงคนไข้หมายเลขสิบสาม : วุฐิศานติ์ จันทร์วิบูล

วัชพืช : อุเทน วงศ์จันดา

เงินคำกำแก้ว : ฮอยล้อ

.

Saturday, April 24, 2010

ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๓

หลวงปู่ใหญ่ ประธานคณะสงฆ์

หลังเสร็จพิธี หลวงปู่ใหญ่เดินพรมน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

เริ่มพิธีกรรมทางพุทธ


ถวายภัตตาหาร คุณเบนโจ ช่วยลำเลียงอาหาร

ใส่บาตรข้าวเหนียว

โดยเจ้าภาพเตรียมข้าวไว้ หรือผู้มาร่วมงาน นำข้าวมาเอง
ใส่ข้าวจากจานให้หมดไม่ต้องเหลือ

ก่อนเริ่มพิธีสงฆ์ ตาจีน พาเดินมาจากบ้านแม่

ลูก ๆ ที่มาร่วมงาน

ช่วยเสริฟน้ำ


คุณเบนโจ พร้อมเจ้าภาพคนอื่น ๆ และญาติมิตร เตรียมถวายภัตตาหาร


รับศีลรับพร

พาข้าวน้อย
อุทิศให้ผู้ล่วงลับ บอกกล่าวโดยจุดธูป เทียน ขานชื่อบรรพบุรุษทั้งหลาย รวมทั้งผีไร้ญาติให้มารับอาหาร
หลังเสร็จพิธี รับประทานอาหารร่วมกันตามประสาญาติพี่น้อง

เบนโจ และเพื่อน ๆ

หญิงอุ้ม แม่ครัวฝีมือดีที่สุด(ในบรรดาพวกเราพี่ ๆ น้อง ๆ)

แม่

ลูกหลาน

ออมสิน
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+


๕ เดือน ผ่านไป การก่อสร้างเกือบแล้วเสร็จ เหลือระบบไฟฟ้าบ้างนิดหน่อย
แต่วันนี้ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๓ เป็นฤกษ์งามยามดีเหมาะแก่การทำพิธีอันเป็นสิริมงคล แม่แจ้งไว้ตั้งแต่สงกรานต์แล้ว

ด้วยเดือนเมษายน วันทำงานน้อย วันหยุดเยอะ กับทั้งมีภารกิจเดินทางไปเมืองจีน ๑ สัปดาห์ กลับมาจากเมืองจีนเจ้าตัวเล็ก จูเนียร์-วัศวีร์ ต้องAdmit นอนดามเหล็กที่เท้าขวาอีก ๕ วัน ทำให้กองงานหัวหน้าไว้เต็มโต๊ะ จึงต้องเร่งเคลียร์งานที่คั่งค้าง กว่าจะได้กลับบ้านเกิดไปเตรียมงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของตัวเองก็เย็นวันที่ ๒๑ แต่คนที่เหนื่อยล่วงหน้าก็คือแม่เราเอง

๕ โมงหลังเลิกงาน กลับบ้าน ขนถ้วยชามข้าวของเครื่องใช้ใส่ท้ายรถ เก็บมะนาวหลังบ้านได้ครึ่งหม้อแกง แวะโลตัสซื้อของเพิ่มนิดหน่อย ทิ้งคุณวัศวีร์คนป่วยเฝ้าบ้านคนเดียวพรุ่งนี้ค่อยตามไปแต่เช้า
ถึงบ้านแม่ขนของลงจากรถ ไปเช็ดถูปัดกวาดบ้านใหม่ทั้งสามห้อง ความจริงพี่สาวพี่สะใภ้และหลาน ๆ ช่วยแม่ทำอยู่ก่อนหน้าแล้ว เสร็จปูที่นั่งพระสงฆ์ จัดเตรียมข้าวของสำหรับพิธีสงฆ์(จังหันเช้า) เสร็จกลับมาที่บ้านแม่ ล้างถ้วยชามเช็ดเรียงไว้ให้พร้อมใช้ งานนี้ไม่ต้องยืมจานชามจากบ้านพี่สาว แต่ใช้จากตู้บ้านแม่และที่ขนไปจากบ้านเมเปิลก็เพียงพอ แต่กว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีหนึ่ง พี่สาวพี่สะไภ้เหนื่อยพอกัน
คุณเบนโจกลับจากเรียนซัมเมอร์ที่ อ.อุ๊ ขอนแก่น มีเพื่อนตามมาร่วมงานด้วยสองคน มานอนเบียดกันที่บ้านยาย คุณวัศวีร์ กับพ่อนอนบ้านเมเปิล เดินทางถึงบ้านยายราวหกโมงเช้า

ราวตีสาม พี่สาว ตื่นไปตลาดสดกับน้องสาว(ลูกน้า)ของเรา พี่สะใภ้ ก็มาสมทบปรุงอาหารคาวหวาน เตรียมเสร็จยกไปที่บ้านหลังใหม่ อาบน้ำอาบท่า ทันเวลาก่อนเจ็ดโมงพอดี

พี่ชาย ทำหน้าที่ไปรับพระสงฆ์ที่วัดเกาะแก้ว ส่วนหลวงปู่ใหญ่ พระสงฆ์อาวุโสที่แม่และลูก ๆ เคารพ ท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ววัดประจำหมู่บ้าน ปัจจุบันรับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัด แม่นิมนต์ทางโทรศัพท์ ท่านเดินทางมาเองด้วยรถยนต์พร้อมคนขับ

พิธีเริ่มจากพ่อใหญ่พราหมณ์-ตาจีน ตาคนที่พาทำพิธียกเสาเอกนั่นเอง นำพวกเราจากบ้านหลังเก่าเดินไปบ้านหลังใหม่ มีพิธีกรรมเรียบง่ายใช้เวลาไม่มาก จากนั้นก็เป็นพิธีพุทธ พระสงฆ์ฉันภัตตาหาร พรมน้ำมนต์ เจิมประตูบ้าน พระสงฆ์เดินทางกลับ ผู้มาร่วมงานซึ่งไม่มากเฉพาะญาติพี่น้องและคนบ้านใกล้เรือนเคียง ลูกหลานและเพื่อน ๆ ลูก ซึ่งเดินทางมาในตอนเช้าอีกคน งานนี้จึงเห็นลูกผู้ชายรับหน้าที่เสริฟน้ำแขก

ก็ครบถ้วนตามประเพณี ได้แต่หวังว่าบ้านใหม่หลังนี้ ซึ่งเจตนาจะสร้างเพื่อให้เช่า คงจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้พักอาศัยและครอบครัวของเราตลอดไป

บ้านใหม่หลังนี้ขอตั้งชื่อว่า บ้านแสงดาว


Sunday, February 28, 2010

ความคืบหน้าการก่อสร้าง (๒)


เป็นการบันทึกความคืบหน้าการก่อสร้างด้วยรูปภาพ เพื่อให้เราท่านอ่านอย่างง่าย ๆ เมื่อวันเวลาผ่านไป ลูกหลานจะได้รับรู้ว่าเราตั้งใจทำเพื่อพวกเขาขนาดไหน ตกเย็นหลังเลิกงาน จะเดินทางกลับบ้าน กินข้าวเย็นกับแม่ เราจึงได้เห็นตะวันยามเย็นบ่อยขึ้น

บึงกุยยามเย็น

๖ กุมภาพันธ์ ๕๓ ใส่หลังคาด้านหลังแล้ว นายแบบคุณจูเนียร์



สองภาพสุดท้าย ถ่ายเมื่อวานนี้เองค่ะ ๒๗กุมภาพันธุ์ ๕๓


ความคืบหน้าการก่อสร้าง

ผ่านไปสองเดือนกว่า การก่อสร้างอาคาร ๓ คูหา เป็นไปอย่างราบรื่น เราเองก็ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดบ่อยขึ้นเพื่อดูแลการก่อสร้าง ทั้งที่จริงมีพี่ชายดูแลจัดการแทนแทบทุกเรื่อง แต่เราก็มีความรู้สึกว่าอยากกลับไปเห็น ไปชมผลผลิตจากน้ำพักน้ำแรงของตน เท่าที่เห็นและรับฟังจากแม่ แม่บอกว่าช่างคนนี้ทำงานเต็มที่ หายห่วง ท่าทางแม่มีความสุขในการเฝ้าดูตึกหลังเล็กของลูกหลาน ส่วนพี่ชาย บางอย่างก็ลุยเอง ทำเอง สมกับที่เราฝากให้ดูแล แม้ตัวเราเองจะอยู่ดูแลทุกวันก็คงไม่มีปัญญาทำได้ครึ่งที่พี่ทำอยู่ นับเป็นความโชคดีของน้องคนนี้


๑๐ มกราคม ๕๓
แม่ พักเหนื่อยหลังเกลี่ยดิน

๑๙ มกราคม ๕๓ เทคานบน มาตรฐานตามแบบ
ข้อนี้มีถกเถียงกันนิดหน่อยว่าเทคานบนเปลืองเกินจำเป็น

แต่เราก็ยืนยันว่า ทำเถอะ ทำให้ดีที่สุด

ผู้คุมงาน แม่ของเราเองค่ะ

ประปาจังหวัด หาพิกัด

ขุดลึกจนมีโอดครวญว่าดินแข็ง ที่ตรงนี้ถมไว้นานเกือบ๑๐ปีแล้วนี่นา


๒๔ มกราคม ๕๓



๒๙ มกราคม ๕๓

๔ กุมภาพันธ์ ๕๓